ระบบภูมิคุ้มกันเป็นเครือข่ายของกระบวนการทางชีววิทยาที่ปกป้องร่างกายจากโรคต่างๆ
หากคุณมีความเข้าใจภูมิคุ้มกันของร่างกาย นั่นคือคุณเข้าใจสุขภาพ และนั่นคือทิศทางที่จะนำไปสู่การมี สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง และมีอายุที่ยืนยาวของคุณ
องค์ประกอบระดับเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เป็นระบบที่เกิดจากการทำงานร่วมกัน ขององค์ประกอบต่าง ๆ ในร่างกาย ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือดขาว แอนติบอดีในกระแสเลือด สารคัดหลั่ง และอวัยวะต่าง ๆ ในระบบน้ำเหลือง ซึ่งแต่ละองค์ประกอบมีลักษณะ และมีบทบาทที่สำคัญ ดังนี้
เม็ดเลือดขาว (leukocyte หรือ white blood cell; WBC)
เม็ดเลือดขาวที่พบในร่างกายของมนุษย์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดต่าง ๆ จะแบ่งได้ เป็น 2 กลุ่ม คือ
1. Agranulocytes)
มีลักษณะที่สำคัญ คือ ในเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดนี้ จะมีนิวเคลียส 1 พู (lobe) และมีส่วนที่เป็น ไลโซโซม (lysosomal granule) อยู่ในไซโทพลาซึม โดยเม็ดเลือดขาวในกลุ่มนี้ มีอยู่ 2 ชนิด คือ เม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์ และเม็ดเลือดขาวชนิด ลิมโฟไซต์ ดังนี้
1.1 เม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์ (monocyte )
พบได้ประมาณ 3-8% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด มีขนาดใหญ่ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12-20 ไมโครเมตร รูปร่างกลม มีนิวเคลียส ที่เป็นรูปไตหรือรูปเกือกม้าจำนวน 1 พู มีโครมาทิน กระจายอยู่ทั่วไปในนิวเคลียส และภายในไซโทพลาซึม จะไม่พบเม็ดไลโซโซม
เม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์นี้ จะมีหน้าที่เป็นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ คลอบล้อมจับกลืนกินแอนติเจน จำพวกเชื้อจุลินทรีย์ด้วย แล้วจะเปลี่ยนแปลงจากเซลล์โมโนไซต์ไปเป็นเซลล์แมคโครฟลาสต์ เพื่อทำหน้าที่นี้ โดยเม็ดเลือดขาวชนิดนี้ จะคงอยู่ในกระแสเลือดได้เป็นระยะเวลา 3 วัน
1.2 เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (Lymphocyte)
เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ พบได้ประมาณ 20-35% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด มีขนาดเล็ก มีเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 7-9 ไมโครเมตร รูปร่างกลม มีนิวเคลียสกลม มีโครมาทินอัดแน่น อยู่ในนิวเคลียส พบมากในต่อมน้ำเหลือง ต่อมไทมัส (Thymus gland) และส่วนเนื้อเยื่อของม้าม แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ ที ลิมโฟไซต์ และบี ลิมโฟไซต์
1.2.1 T-lymphocyte
เป็นเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ที่สร้างจากเซลล์ต้นกำเนิด (stem cell) ในไขกระดูก (bone marrow) เม็ดเลือดขาวนี้ จะถูกนำไปอยู่ที่ต่อมไทมัส เพื่อรับเอาข้อมูลเชื้อโรค และวิธีการทำงาน
1.2.2 B-lymphocyte
เป็นเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ ที่สร้างจากเซลล์ ไขกระดูก ซึ่งเมื่อถูกกระตุ้นด้วยสารแปลกปลอมหรือแอนติเจนจะพัฒนาเป็นพลาสมาเซลล์ที่มีหน้าที่หลั่งแอนติบอดีมาจับกับแอนติเจน บี ลิมโฟไซต์ บางเซลล์จะเปลี่ยนแปลงไปเป็น เซลล์เมมเมอรี (memory cell) ซึ่งทำหน้าที่จดจำลักษณะของแอนติเจนแต่ละชนิดที่เคยเข้าสู่ร่างกาย และหากมีแอนติเจนชนิดเดิมเข้าสู่ร่างกายอีกครั้ง ร่างกายจะมีการตอบสนองด้วยการสร้างแอนติบอดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
2. Granulocyte
มีลักษณะสำคัญ คือ นิวเคลียสภายในเซลล์ จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ที่มีรูปร่างหลายรูปแบบ จัดเป็นเม็ดเลือดขาวแบบ Polymorpho nuclear leukocytes (PMN) นิวเคลียสของเม็ดเลือดขาวกลุ่มนี้ จะมีจำนวนพูมากกว่า 1 พู และมีรูปร่างไม่แน่นอน ภายในไซโทพลาซึม ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ 1.Neutrophil 2.Eosinophil และ 3.Basophil
2.1 Neutrophil
พบได้ประมาณ 60-70% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด เป็นเม็ดเลือดขาวรูปร่างทรงกลม มีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12-15 ไมโครเมตร มีนิวเคลียสจำนวนมากหลายพู ต่อเชื่อมติดกันด้วยเส้นใยโครมาทิน ภายในไซโทพลาสซึม จะพบ กรานูล ที่ทำหน้าพิเศษ มีรูปร่างเป็นแท่งกลม ซึ่งมีเอนไซม์ ที่ทำหน้าที่ทำลายสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ หลายชนิด สามารถคงอยู่ในกระแสเลือดได้ประมาณ 1-4 วัน ทำหน้าที่เป็นด่านแรก ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมโดยเมื่อ นิวโทรฟิลกลืนกินแอนติเจนในบริเวณที่ติดเชื้อแล้ว กรานูลจะปล่อยเอนไซม์ออกมา เพื่อย่อยสลายให้เซลล์นิวโทรฟิลตายไป พร้อมกับแอนติเจน และเกิดเป็นหนองอยู่ในบริเวณดังกล่าว
2.2 Eosinophil
พบประมาณ 2-5% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด เป็นเม็ดเลือดขาวขนาดกลาง ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10-15 ไมโครเมตร มีนิวเคลียส 2 พู ภายในไซโทพลาสซึม และจะมีกรานูลพิเศษรูปไข่ขนาดใหญ่จำนวนมาก มีเอนไซม์ย่อยสลาย ชนิด hydrolytic enzyme ซึ่งจะทำหน้าที่กำจัดจุลินทรีย์ด้วยกระบวนการสร้างสารประกอบของแอนติเจน และแอนติบอดีโดยจะมี การกลืนกินแอนติเจนเหล่านั้นได้
3.Basophil
พบได้ประมาณ 0.5-1% ของเม็ดเลือดขาวทั้งหมด มีขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12-15 ไมโครเมตร นิวเคลียสมีรูปร่างยาวหรือคล้ายตัวเอส (S) ในไซโทพลาซึมจะมีกรานูลพิเศษกระจายอยู่จำนวนมาก หากย้อมสีจะติดสีน้ำเงินเข้ม
ในกรานูลของเม็ดเลือดขาวชนิดเบโซฟิลจะประกอบด้วยสารสำคัญ คือ เฮพาริน ซึ่งมีฤทธิ์ป้องกันการแข็งตัวของเลือด และฮีสตามิน ซึ่งมีบทบาทในการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจนบางชนิด ทำให้เกิดเป็นอาการภูมิแพ้บริเวณผิวหนังได้ โดยฮีสตามินจะกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว บวม เพิ่มการซึมผ่านบริเวณผนังหลอดเลือด ทำให้ของเหลวจากหลอดเลือดรั่วเข้าไปอยู่ในเนื้อเยื่อ และทำให้เกิดอาการของปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น อาการน้ำมูลน้ำตาไหล กล้ามเนื้อเรียบหดตัว และอาการคัน เป็นต้น
แอนติบอดีในกระแสเลือดและสารคัดหลั่ง
การสร้างภูมิต้านทานที่เป็นแอนติบอดี เป็นลักษณะการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันจากกระแสเลือดและสารคัดหลั่งหรือ HIR โดยแอนติบอดีต่าง ๆ ถูกสร้างขึ้นจากเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ชนิดบี ซึ่งสามารถตอบสนองสิ่งแปลกปลอมที่มีความจำเพาะ โดยเมื่อแอนติเจนพบกับลิมโฟไซต์ชนิดบี จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่มปริมาณและปรับเปลี่ยนไปเป็นเซลล์พลาสม่าที่สามารถผลิตแอนติบอดี ซึ่งมีฤทธิ์จำเพาะต่อแอนติเจนหรือสิ่งแปลกปลอมนั้น
ในซีรัมจะมีแอนติบอดี ซึ่งเป็นสารประกอบโปรตีน เรียกว่า แกมมาโกลบูลิน (gamma globulin) กระจายอยู่และเมื่อถูกกระตุ้นให้เริ่มทำหน้าที่เกี่ยวกับภูมิต้านทานของร่างกายจึงเรียกว่า อิมมูโนโกลบูลิน (immuoglobulin; lg) มีอยู่ 5 ชนิด คือ lgG, lgA, lgM, lgD และ lgE โดยการสร้างแอนติบอดีมีกลไลอยู่ 2 รูปแบบ คือ
1) แบบที่สร้างโดยไม่ผ่านการกระตุ้นของเซลล์ที (T-independent antigens) เป็นการสร้างแอนติบอดีจากเซลล์บี โดยไม่ต้องอาศัยเซลล์ทีผู้ช่วย เกิดจากการกระตุ้นของแอนติเจนที่เป็นโพลีแซคคารายด์ (polysaccharide) เช่น จากแคปซูล หรือจากแฟกเจลลาของแบคทีเรีย เป็นต้น การกระตุ้นด้วยวิธีนี้จะไม่มีการจดจำของเซลล์เมมเมอรี
2) แบบที่สร้างโดยผ่านการกระตุ้นของเซลล์ที่ (T-dependent antigens) เป็นการสร้างแอนติบอดีจากเซลล์บีที่ต้องอาศัยเซลล์ทีผู้ช่วยมากระตุ้น เกิดจากการกระตุ้นของแอนติเจนที่เป็นโปรตีน การกระตุ้นนี้จะทำให้เกิดการจดจำของเซลล์เมมเมอรี (Memory B cell) ซึ่งก่อให้เกิดการตอบสนองที่รวดเร็ว เมื่อรับแอนติเจนชนิดเดิมอีกครั้ง
แอนติบอดีเป็นโปรตีนที่มีรูปร่างคล้ายตัววาย (Y) ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่ใช้เกาะติดกับแอนติเจน มีลักษณะเป็นแขน 2 ข้าง โดยแขนแต่ละข้างจะมีส่วนแปรผัน (variable region) ที่มีความจำเพาะกับแอนติเจนแต่ละชนิด โดยการตอบสนองของภูมิคุ้มกันด้วยการสร้างแอนติบอดีแต่ละชนิด จะมีความแตกต่างกันดังนี้
-lgM จะเป็นแอนติบอดีชนิดแรก (primary immune response) ที่ถูกสร้างออกมาและจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เมื่อร่างกายได้รับแอนติเจน แอนติบอดีชนิดนี้จะมีหน้าที่ในระบบคอมพลีเมนต์ทำให้เกิดการตกตะกอนของแอนติเจน
-lgG เป็นแอนติบอดีชนิดที่ 2 หรือการตอบสนองขั้นที่ 2 (secondary immune response) มีปริมาณมากในกระแสเลือด ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อแบคทีเรียและไวรัสแอนติบอดีชนิดนี้จะสามารถถ่ายทอดจากร่างกายของแม่ไปสู่ลูกได้ โดยผ่านทางสายรก
-lgA เป็นแอนติบอดีที่พบได้ในน้ำตา น้ำลาย เหงื่อ และน้ำนม ซึ่งมีมากในน้ำนมเหลืองหรือโคลอสทัม (colostrum) สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารของทารก
-lgD พบที่ผิวของเซลล์บี ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์พลาสและเซลล์เมมเมอรี
-lgE เป็นแอนติบอดีที่พบน้อยมาก และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้
ระบบน้ำเหลือง (lymphatic system)
ส่วนประกอบในระบบน้ำเหลือง ได้แก่ น้ำเหลือง (lymph) ท่อน้ำเหลือง (lymph vessel) และอวัยวะน้ำเหลือง (lymphaticc organ) ซึ่งมีหลอดน้ำเหลืองฝอย (lymph capillary) กระจายอยู่ทั่วไปในร่างกาย โดยมีลักษณะเป็นหลอดที่มีผนังชั้นเดียว ภายในมีของเหลวเป็นน้ำเหลือง มีหน้าที่ช่วยลำเลียงสารจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้เข้าสู่หลอดเลือด ด้วยการนำเข้าสู่หลอดน้ำเหลืองฝอยและไหลต่อไปยังท่อน้ำเหลืองเล็ก (lymph venules) ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยไม่มีการไหลเวียนกลับเนื่องจากภายในท่อเหลืองเล็กมีลิ้นกั้นเพื่อป้องกันการไหลย้อนกลับ
น้ำเหลืองจะไหลต่อไปยังอวัยวะที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แก่ต่อมน้ำเหลือง (lymph node) ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ขาหนีบรักแร้ เป็นต้น ในต่อมน้ำเหลืองต่าง ๆ เหล่านี้จะมีเม็ดเลือดขาวกลุ่มฟาโกไซต์อยู่เป็นจำนวนมาก ทำหน้าที่เสมือนด่านแรกในการดักทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย แต่ถ้าหากมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมากก็อาจจะทำให้ต่อมน้ำเหลืองต่าง ๆ เหล่านี้ทำงานหนักจนเกิดอาการบวมได้
นอกจากต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายแล้ว ในระยะน้ำเหลืองยังมีอวัยวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและทำหน้าที่เช่นเดียวกันอยู่อีกมาก เช่น ต่อมทอนซิล (tonsil) ม้าม (spleen) ต่อมไทมัส (thymus gland) เป็นต้น
ฟังสาระสุขภาพ และมีเพลง ฟังได้ 24 ชั่วโมง |
---|
Shoping ที่นี่!รับส่วนลด ในราคาสมาชิกทุกขวด
ระบบภูมิคุ้มกันเท่านั้น จึงจะช่วยให้คุณพ้นจาก โควิด 19
บริษัท 4ไล้ฟ์ รีเสิร์ช และทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์มีความมุ่งมั่น ที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งมอบการสนับสนุนสุขภาพ ของระบบภูมิคุ้มกันแบบองค์รวมของคุณ ที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์ไดๆ และยังมีการรักษามาตรฐานของคุณภาพและการทดสอบในระดับสูงสุด 4ไล้ฟ์ได้นำเสนอวิธีการส่งมอบคุณค่าเหล่านี้ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบแคปซูล เม็ดเคี้ยว น้ำ เครื่องดื่ม แบบผง และผลิตภัณฑ์เฉพาะเจาะจงต่อระบบภูมิคุ้มกัน
สะดวกซื้อ ออนไลน์ ส่งถึงหน้าบ้าน
(Convenient to buy online and deliver to your home)
โปรตีน PRO TF ประหยัดได้ 750 บาท สั่งซื้ิอ Online |
Transfer Factor Plus ประหยัดได้ 832 บาท สั่งซื้ิอ Online |
|
---|---|---|
สมัครใช้วิทยุออนไลน์ ฟรี ให้วิทยุออนไลน์ช่วยขาย |
สมัครร้านค้าออนไลน์ ฟรี ให้เว็บไซต์ช่วยขาย |
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น