สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)
รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล
รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคม รักษาการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ลงนามประกาศสำนักงาน กสทช.
เรื่อง การเปลี่ยนผ่านการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงไปสู่ระบบอนุญาต
สำหรับสาระสำคัญของประกาศฯฉบับดังกล่าว
ได้แก่ 1.การทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงตามประกาศ กสทช. เรื่อง
หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง พ.ศ.2555
ให้มีระยะเวลาถึงวันที่ 3 เม.ย.2565
2.กำหนดหลักการในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบการอนุญาตสำหรับสถานีวิทยุกระจายเสียงที่มีสถานะเป็นผู้ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงตามประกาศ
กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
พ.ศ.2555 ดังต่อไปนี้
2.1
กรณีการพิจารณาอนุญาตให้ใช้งานคลื่นความถี่ระบบ เอฟ.เอ็ม
กำลังส่งต่ำเพื่อประกอบกิจการกระจายเสียง ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 4
เม.ย.2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาต
ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. ประกาศกำหนด
2.2
กรณีสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ยังไม่สามารถเขาสู่กระบวนการพิจารณาอนุญาตตามข้อ
2.1 ได้
ให้ออกอากาศด้วยการใช้คลื่นงานคลื่นความถี่ด้วยกำลังต่ำตามหลักเกณฑ์ที่
กสทช. ประกาศกำหนด ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.2565
โดยการใช้งานให้สิ้นสุดลงพร้อมกันในปี 2567
3.กำหนดให้ความในประกาศฉบับนี้
ถือเป็นเงื่อนไขแนบท้ายการอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงเพิ่มเติม
สำหรับการทดลองประกอบกิจการกระจายเสียงทุกประเภท
4.การดำเนินการตามประกาศนี้
กสทช.มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.
ปรับปรุงหรือจัดทำประกาศหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินการตามแผนการดำเนินงานในการพิจารณาอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการกระจายเสียง
โดยสำนักงาน กสทช.
จะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดต่อไป
ทั้งนี้
ประกาศ กสทช.ฉบับนี้ เป็นไปตามมติ กสทช. ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25
พ.ค.2564
ที่มีมติเห็นชอบแผนการดำเนินงานในการพิจารณาอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการกระจายเสียง
และกำหนดหลักการในการเปลี่ยนผ่านการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงไปสู่ระบบการอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และการประกอบกิจการกระจายเสียง
พร้อมทั้งมอบหมายให้
สำนักงาน กสทช.
แจ้งให้สถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงทุกสถานีได้รับทราบ
และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบการอนุญาต
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า
ประกาศ กสทช. ฉบับดังกล่าว
ทำให้สถานีวิทยุทั่วประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงตามประกาศ
กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
พ.ศ.2555 กว่า 4,000 สถานี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถานีวิทยุชุมชน
จะต้องเข้าสู่ระบบการอนุญาต
นายสุทนต์ กล้าการขาย นายกสมาคมสื่อช่อสะอาด ซึ่งสมาชิกสถานีวิทยุชุมชน 421
สถานี กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2555 สถานีวิทยุชุมชนทั่วประเทศกว่า 4,000 แห่ง
ได้รับใบอนุญาตให้ทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง คราวละ 1
ปี โดยมีการต่ออายุใบอนุญาตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และมีค่าธรรมเนียมสถานีละ 10,700 บาท/ปี ขณะที่กำลังส่งคลื่นวิทยุจะเป็นไปตามคำสั่ง คสช. ในปี 2557 คือ มีกำลังส่ง 500 วัตต์ และเสาส่งสัญญาณมีความสูง 60 เมตร
แต่ประกาศ
กสทช. เรื่อง
การเปลี่ยนผ่านการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงไปสู่ระบบอนุญาต
ที่เพิ่งประกาศออกมานั้น
จะยกเลิกการทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงในวันที่ 3 เม.ย.2565
และให้สถานีวิทยุชุมชนจะต้องเข้าสู่ระบบการอนุญาต ในวันที่ 4 เม.ย.2565
หรือต้องเข้าสู่ระบบการประมูลใบอนุญาต เนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
กสทช. ระบุว่า การจัดสรรคลื่นความถี่ต้องใช้วิธีการประมูลเท่านั้น
ซึ่งสร้างภาระให้สถานีวิทยุชุมชน โดยเฉพาะท่ามกลางวิกฤติโควิด-19
“หลังวันที่
3 เม.ย.2565 เป็นต้นไป ทุกสถานีต้องลดกำลังส่งจากเดิมที่ใช้อยู่ 500 วัตต์
เหลือ 50 วัตต์ ทำให้สถานีทุกแห่งต้องปรับเปลี่ยนเครื่องส่งเป็น 50 วัตต์
ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ต้องซื้อใหม่ และใช้ได้ถึงปี 2567 เท่านั้น นอกจากนี้
เครื่องส่งที่มีกำลังส่งเพียง 50 วัตต์ จะทำให้รัศมีการออกอากาศเหลือไม่ถึง
20 เมตร จากปัจจุบันที่กำลังส่ง 500 วัตต์ มีรัศมีการออกอากาศ 5-10
กิโลเมตร อีกทั้งขณะนี้ยังไม่มีใครรู้ว่า กสทช.จะกำหนดราคาประมูลใบอนุญาตเท่าไหร่” นายสุทนต์ กล่าว
นายสุทนต์
ยังระบุว่า ปัจจุบันสถานีวิทยุที่กระจายอยู่ในต่างจังหวัด
และสถานีวิทยุชุมชนทั่วประเทศ ต้องใช้เงินลงทุนสูงพอสมควร
แต่มีรายได้เพียงหลักพันถึงหลักหมื่น
และยังต้องเผชิญกับแข่งขันที่รุนแรงจากสื่อประเภทอื่นๆ
โดยเฉพาะสื่อออนไลน์
นายสุทนต์
กล่าวว่า สมาคมฯจะร่วมกับสมาคมวิทยุชุมชนอื่นๆส่งหนังสือไปยัง คณะกรรมการ
กสทช. ขอให้ยกเลิกมติ กสทช. ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2564
รวมทั้งส่งหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อให้เข้ามาช่วยดูแลผู้ประกอบการสถานีวิทยุด้วย
เพราะมติ
กสทช.ดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการสถานีวิทยุอย่างมาก
และหากไม่มีการทบทวนประกาศ กสทช. ดังกล่าว
สมาคมฯจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป