ไวรัสกลายพันธุ์อย่างไร และมีความหมายอย่างไรกับวัคซีน?

เมื่อครั้ง SARS-CoV-2 เคยแพร่กระจายไปทั่วโลก มันกำลังกลายพันธุ์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ มันได้รับการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม

        ในแนวคิดเรื่อง“ การกลายพันธุ์ของไวรัส” ฟังดูน่าสนใจ แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องเข้าใจว่า การกลายพันธุ์จำนวนมากเหล่านี้ แม้เป็นเพียงเล็กน้อย และไม่มีผลกระทบโดยรวม ต่อการแพร่กระจายของไวรัสที่รวดเร็ว หรือก่อความรุนแรงของการติดเชื้อไวรัส แต่ในความเป็นจริง การกลายพันธุ์บางอย่างก็อาจเป็นประโยชน์ เพราะอาจทำให้การติดเชื้อไวรัสมีน้อยลง

        เท่าที่เราทราบกัน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของไวรัส มันเปลี่ยนไปก็เพื่อหลีกหนี จากภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติของเรา หรือหนีจากการกระตุ้นด้วยวัคซีน จากการสังเกตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ ต้องมีการอัปเดตวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งก็อยู่ในหลัก 2 วิธี คือ แอนติเจนดริฟต์(Antigenic Drift) และแอนติเจนกะ(Antigenic Shift)

        มีการเปรียบเทียบความเหมือน และความแตกต่าง ระหว่างไวรัสโคโรนา และไวรัสไข้หวัดใหญ่ อาจจะช่วยให้เราเข้าใจว่า ความเหมือนและความแตกต่างเหล่านี้ อาจส่งผล ต่อการช่วยเพิ่มให้ประสิทธิภาพของ วัคซีน COVID-19 ให้ดีขึ้นได้อย่างไร

การเปลี่ยน แบบแบ่งส่วน (Antigenic Drift)

เมื่อไวรัสจำลองแบบยีนของมันเอง มันจะเกิดมี "ข้อผิดพลาดในการคัดลอก" เป็นการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม และเมื่อเวลาผ่านไป ข้อผิดพลาดเหล่านี้ อาจรวมถึง การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ของไวรัส ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโปรตีนหรือแอนติเจนบนพื้นผิวของไวรัสด้วย

        ระบบภูมิคุ้มกันของเรา จะใช้แอนติเจนเหล่านี้ เพื่อรับรู้ และต่อสู้กับไวรัส แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไวรัสกลายพันธุ์เพื่อหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันของเรา?

        ในไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Iinfluenza virus) การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมของมัน จะทำให้แขนแอนติเจนบนผิวของมัน “ เปลี่ยนไป(drift) ” ซึ่งหมายความว่า พื้นผิวของไวรัสที่กลายพันธุ์ มีลักษณะที่แตกต่างจากไวรัสดั้งเดิมไปแล้ว

        เมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่เปลี่ยนไป จากวัคซีนป้องกันไวรัสสายพันธุ์เก่า และภูมิคุ้มกันจากการจดจำติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตัวเก่า จะไม่ไดผลกับสายพันธุ์ใหม่ ที่เปลี่ยนไปอีก ทำให้คน ๆ นั้นก้จะมีความเสี่ยงต่อการติดไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่กลายพันธุ์รุ่นใหม่ ๆ ได้อีก

Antigenic drift เป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ที่ต้องมีการทบทวน และปรับปรุงวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ในแต่ละปีอยู่เสมอ เพื่อให้ทันกับไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเสมอ

มันอาจเกิดขึ้นกับ SARS-CoV-2 ได้หรือไม่?

จากสิ่งที่สังเกตได้ จนถึงตอนนี้ เกี่ยวกับวิวัฒนาการทางพันธุกรรมของ SARS-CoV-2 ดูเหมือนว่า ไวรัสจะกลายพันธุ์ค่อนข้างช้า เมื่อเทียบกับ ไวรัส RNA อื่น ๆ นักวิทยาศาสตร์คิดว่า นี่เป็นเพราะความสามารถ ในการ "พิสูจน์" สำเนา RNA ที่สร้างขึ้นใหม่ ฟังก์ชันการพิสูจน์นี้ ไม่มีอยู่ในไวรัส RNA อื่น ๆ ส่วนใหญ่

รวมถึงไข้หวัดใหญ่ (Influenza) จากการศึกษาจนถึงปัจจุบันคาดว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะกลายพันธุ์ในอัตราที่ช้ากว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่ ประมาณ 4 เท่า หรือที่เรียกว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล แม้ว่า SARS-CoV-2 จะมีการกลายพันธุ์ไปเรื่อย แต่จนถึงขณะนี้ ดูเหมือนว่า มันจะไม่เปลี่ยนแอนติเจน

อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่า SARS-CoV-2 เป็นไวรัสที่เพิ่งค้นพบ ที่ติดเชื้อในมนุษย์ และยังมีสิ่งที่เราไม่รู้จักมากมาย และความเข้าใจของเราเกี่ยวกับไวรัส SARS-CoV-2ยังคงมีต่อไป ด้วยอัตราที่มีการกลายพันธุ์ที่ค่อนข้างช้านี้ สำหรับ SARS-CoV-2 จะทำให้เรา มีความหวังว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีน SARS-CoV-2 จะมีปัญหาการติดที่น้อยลง และสามารถป้องกันโรคใน ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น

การกลายพันธุ์ของไวรัส 1 แบบ Drift นิดหน่อย 2.แบบ shift ทั้งหมด

การเปลี่ยน แอนติเจน ทั้งหมด (Antigenic Shift)

ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงของแอนติเจน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างกะทันหัน ของแอนติเจนไวรัส ซึ่งเกิดขึ้นเพียงน้อยในการเปลี่ยนแอนติเจนแบบดริฟต์

การเปลี่ยนแปลงเอนติเจนแบบทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นเมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2 สายพันธุ์ ที่มีความแตกต่างกัน แต่เกี่ยวข้องกัน ด้วยการติดเชื้อในเซลล์โฮสต์ ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากจีโนม( Genomes) ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ ประกอบด้วย RNA 8 ชิ้น ที่แยกออกจากกัน (เรียกว่า " Genome segments")

บางครั้งไวรัสเหล่านี้ มันสามารถ "ผสมพันธุ์" ในกระบวนการที่เรียกว่า "Reassortment(จัดประเภทใหม่)" ในระหว่างการจัดประเภทใหม่ ในกลุ่มจีโนมของไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2 กลุ่ม มันจะสามารถผสมรวมกัน เพื่อสร้างเป้นไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ ผลการจัดประเภทใหม่เป็นไวรัสชนิดย่อยใหม่ โดยจะมีแอนติเจนที่เป็นส่วนผสม ของไวรัสจาก 2 สายพันธุ์เดิม

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น คนส่วนใหญ่จะไม่มีภูมิต้านทานต่อไวรัสตัวใหม่ ไวรัสที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของแอนติเจนนี้ จะเป็นเชื้อที่มีแนวโน้ม ที่จะก่อให้เกิดการระบาดได้มากที่สุด

ไวรัสโคโรนา มีมาอย่างไร

Corona viruses ไม่มีจีโนมแบบแบ่งส่วน และมันไม่สามารถจัดประเภทใหม่ได้ แต่จีโนมของ corona virus นั้น สร้างจาก RNA ชิ้นเดียวที่ยาวมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อไวรัสโคโรนา 2 ตัว มาติดในเซลล์เดียวกัน พวกมันก็สามารถที่จะรวมตัวกันใหม่ได้ ซึ่งแตกต่างจากการจัดประเภทใหม่ ในการรวมตัวกันใหม่

จีโนม RNA เดี่ยวใหม่ (novel corona virus) จะถูกต่อเข้าด้วยกัน จากชิ้นส่วนของจีโนมโคโรนาไวรัส "ตัวต้นแบบ" 2 ตัว มันจะไม่ได้มีประสิทธิภาพ ไม่มีความรุนแรง เท่ากับการจัดประเภทใหม่ แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ไวรัสโคโรนา ได้มาจากรวมตัวกันใหม่ ของไวรัส ในธรรมชาติ

ตัวนิ่ม สัตว์ป่า พาหะโรค

สิ่งนี้ เกิดขึ้นกับ corona viruses เช่นกันกับ human corona viruses หรือยีนของ human corona viruses ใหม่ซึ่งมาจาก corona viruses จากบรรพบุรุษ ที่ติดเชื้อสัตว์อื่นมาจากสัตว์ป่า เช่น ค้างคาว อูฐ หรือตัวลิ่น

จนถึงปัจจุบันนี้ เราได้เห็น corona viruses ทำหน้าที่ การระบาดเหมือนไวรัสไข้หวัดใหญ่ และตอนนี้ การระบาดของโรค จากกระบวนการรวมตัวกันใหม่ และการติดเชื้อมาจากสัตว์ (zoonosis) ที่สร้างเป็นโคโรนาไวรัส ของมนุษย์ชนิดใหม่ (human corona viruses)

จนถึงตอนนี้ เราได้เห็นว่าไวรัสโคโรนาของมนุษย์ ที่มาจากการกลายพันธุ์ แต่ไม่ได้รับการแพร่กระจายของแอนติเจน นี่จึงเป็นข่าวดี สำหรับการทำวัคซีนโคโรนาไวรัส

อย่างไรก็ตาม ด้วยความคล้ายคลึงกัน ระหว่างพฤติกรรมของไวรัสไข้หวัดใหญ่ และโคโรนาไวรัส จึงมีเหตุผลเพียงพอ ที่จะต้องระมัดระวังต่อความเป็นไปได้ ของการเปลี่ยนแปลงแอนติเจนในอนาคต ของ SARS-CoV-2 และเตรียมที่จะเปลี่ยนให้เป็นวัคซีน COVID-19 ที่มีศักยภาพหากจำเป็นต้องทำ

Zoonotic Diseases

4LIFE MY SHOP

บริษัท 4ไล้ฟ์ รีเสิร์ช และทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์มีความมุ่งมั่น ที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งมอบการสนับสนุนสุขภาพ ของระบบภูมิคุ้มกันแบบองค์รวมของคุณ ที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์ไดๆ และยังมีการรักษามาตรฐานของคุณภาพและการทดสอบในระดับสูงสุด 4ไล้ฟ์ได้นำเสนอวิธีการส่งมอบคุณค่าเหล่านี้ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบแคปซูล เม็ดเคี้ยว น้ำ เครื่องดื่ม ผง และผลิตภัณฑ์เฉพาะเจาะจง

สะดวกซื้อ ออนไลน์ ส่งถึงหน้าบ้าน
(Convenient to buy online and deliver to your home)

โปรตีน PRO TF ประหยัดได้ 750 บาท สั่งซื้ิอ Online	โปรตีน Nutrastart ประหยัดได้ 547 บาท สั่งซื้ิอ Online	Transfer Factor Plus ประหยัดได้ 832 บาท สั่งซื้ิอ Online
Tri-Factor Advance ประหยัดได้ 607 บาท สั่งซื้ิอ Online	Tri-Factor Riovida ประหยัดได้ 942 บาท สั่งซื้ิอ Online	Renuvo Transfer Factor ประหยัดได้ 682 บาท สั่งซื้ิอ Online
คอลลาเจน (Collagen) ประหยัดได้ 400 บาท สั่งซื้ิอ Online	BIO EFA น้ำมันปลา ประหยัดได้ 292 บาท สั่งซื้ิอ Online	Recall Transfer Factor ประหยัดได้ 682 บาท สั่งซื้ิอ Online
Gutamine Anti-Oxidant ประหยัดได้ 305 บาท สั่งซื้ิอ Online	Stix Anti-Oxidant ประหยัดได้ 372 บาท สั่งซื้ิอ Online	BCV Transfer Factor ประหยัดได้ 722 บาท สั่งซื้ิอ Online
CM แคลเซียม ประหยัดได้ 212 บาท สั่งซื้ิอ Online	PBGS Anti-Oxidant ประหยัดได้ 372 บาท สั่งซื้ิอ Online	Transfer Factor Plus ประหยัดได้ 1,970 บาท สั่งซื้ิอ Online
Renewall Cream ประหยัดได้ 282 บาท สั่งซื้ิอ Online	Chewable Tri-Factor ประหยัดได้ 632 บาท สั่งซื้ิอ Online	ยาสีฟัน Transfer Factor ประหยัดได้ 152 บาท สั่งซื้ิอ Online
Tri-Factor Advance ประหยัดได้ 1,950 บาท สั่งซื้ิอ Online	Riovida Tri-Factor ประหยัดได้ 2,235 บาท สั่งซื้ิอ Online	BCV Transfer Factor ประหยัดได้ 1,860 บาท สั่งซื้ิอ Online
Tri-Factor Advance ประหยัดได้ 2,250 บาท สั่งซื้ิอ Online	PBGS Anti-Oxidant ประหยัดได้ 1,740 บาท สั่งซื้ิอ Online	Chewable Tri-Factor ประหยัดได้ 2,205 บาท สั่งซื้ิอ Online
Transfer Factor Vista ประหยัดได้ 627 บาท สั่งซื้ิอ Online	โทร.084 125 0585	โทร.084 125 0585